วันเสาร์ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2555

สิ่งที่มีคุณค่า ไม่จำเป็นต้องอยู่ด้านหน้าเสมอไป

สวัสดีเพื่อนๆ ทุกคนค่ะ กลับมาพบกันอีกเช่นเคย หลังจากห่างหายไปนาน สบายดี มีความสุข กินอิ่ม นอนหลับกันนะคะ ใกล้จะถึงสิ้นเดือนแล้ว เค้าพูดกันว่า สิ้นเดือนเหมือนสิ้นใจ จริงหรือปล่าวคะ แล้วถ้าจริงเพื่อนๆมีวิธีแก้ไขอย่างไรบ้างคะ ผู้เขียนก็เคยเป็นเหมือนกันค่ะ แต่ก็ใช้ชีวิตตามปกตินะคะ ไม่อดด้วยนะ แถมยังได้กินอาหารญี่ปุ่น (มาม่า) อีกต่างหาก ฮ่าๆ คลายเครียดก่อนเจอสาระความรู้
วันนี้เราจะมาพูดถึง เรื่องของ เงิน เงิน เงิน แล้วก็ เงิน เงินที่ว่านี้ขอพูดแค่เงินที่เป็นธนบัตรเท่านี้นะคะ

ธนบัตรจัดเป็นสิ่งพิมพ์ที่มีค่าชนิดหนึ่ง เมื่อจัดตามประเภทการใช้งาน
ในสมัยก่อน ค่าของเงินจะวัดจากวัตถุที่นำมาใช้เป็นเงิน เช่น เบี้ย ทอง แต่การถือวัตถุที่มีค่าเหล่านี้ออกไปจำนวนมาก ทำให้ไม่สะดวกและอาจเกิดอันตรายได้ จึงมีการใช้ธนบัตรเพื่อเป็นสื่อแลกเปลี่ยน ธนบัตรเป็นเหมือนสัญญาว่าจะให้เงินไปจำนวนหนึ่ง สามารถนำไปแลกคืนเป็นเงินหรือทองในภายหลังได้ ต่อมาจึงเกิดการแลกเปลี่ยนเพื่อสิ่งของและบริการ ไม่ต้องแลกเป็นเงินหรือทองอีก
การจัดทำและการนำออกใช้ธนบัตร เป็นหน้าที่ของธนาคารแห่งประเทศไทย ที่มีบทบาทสำคัญต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศเป็นอย่างยิ่ง ด้วยธนบัตรเป็นเงินที่สามารถชำระหนี้ได้ตามกฏหมายแล้ว ยิ่งต้องอาศัยการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ ปลอดภัยและได้มาตรฐาน เพื่อให้ธนบัตรไทยมีความน่าเชื่อถือ สมกับเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนที่สำคัญ
ธนบัตรเป็นของที่มีค่าที่ของคนในชาติ ตระหนัก ให้ความสำคัญเกี่ยวกับธนบัตรและยังเป็นสื่อที่ทำหน้าที่เผยแพร่เอกลักษณ์ประจำชาติให้ทั่วโลกรู้จัก ดังนั้นการพิมพ์ธนบัตรจึงมักนำภาพที่เป็นสัญลักษณ์แห่งความเจริญรุ่งเรือง ความภาคภูมิใจ ประวัติศาสตร์ อารยธรรมไทย ศิลปกรรม สถาปัตยกรรมและศิลปวัฒนธรรมที่ทรงคุณค่า มาแสดงไว้ในธนบัตรอย่างผสมกลมกลืน
คุณค่าของธนบัตรอยู่ตรงไหน ?

ธนบัตรใบละ 20 บาท สีเขียว ด้านหลังของธนบัตร มีภาพของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล ปรากฏอยู่ และพระราชดำรัสมีใจความสำคัญว่า “ ถ้าคนไทยทุกคน ถือว่าตนเป็นเจ้าของชาติบ้านเมืองและต่างปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ดีด้วยความซื่อสัตย์สุจริตและถูกต้องตามทำนองคลองธรรมแล้ว ความทุกยากของบ้านเมืองก็จะผ่านพ้นไปได้ ”
ธนบัตรใบละ 50 บาท สีฟ้า ด้านหลังของธนบัตร มีภาพของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช แสดงถึงเหตุการณ์การทำยุทธหัตถีกับพระมหาอุปราชแม่ทัพพม่าที่ยกมารุกรานไทย จนถูกพระแสงของ้าวสิ้นพระชนม์ และกองทัพพม่า ต้องแตกพ่ายกลับไป
ธนบัตรใบละ 100 บาท สีแดง ด้านหลังของธนบัตร มีภาพของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวและพระราชดำรัสมีใจความสำคัญว่า “ ประเพณีทาสที่มีอยู่ในพระราชอาณาจักรสยาม ถึงเป็นวิธีทาสทำสารกรมธรรม์ขายตัวด้วยใจสมัคร มิใช่ทาสเชลยที่เป็นการกดขี่อย่างร้ายแรงก็จริง แต่ก็เป็นเครื่องกีดขวางความเจริญประโยชน์และสุขสำราญของมหาชนอยู่อย่างหนึ่ง ซึ่งจำเป็นต้องเลิกถอนอย่าให้มีประเพณีทาสภายในอาณาจักรนี้ กรุงสยามจึงจะมีความเจริญสมบูรณ์เท่าทันประเทศอื่น ”
ธนบัตรใบละ 500 บาท สีม่วง ด้านหลังของธนบัตร มีภาพของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระราชดำรัสมีใจความสำคัญว่า  “ การงานสิ่งใดของเขาที่ดี ควรจะเรียนร่ำเอาไว้ ก็เอาอย่างเขา แต่อย่าให้นับถือเลื่อมใสไปเสียทีเดียว ”
ธนบัตรใบละ 1000 บาท สีเทา ด้านหลังของธนบัตร มีภาพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระราชดำรัสมีใจความสำคัญว่า “ เศรษฐกิจแบบพอมีพอกิน แบบพอมีพอกินนั้น หมายความว่า อุ้มชูตัวเองได้ ให้มีพอเพียงกับตัวเอง ”

จะเห็นได้ว่า ธนบัตรทุกชนิด ล้วนสื่อความหมายเกี่ยวกับพระมหากษัตริย์ พระราชดำรัส พระราชกรณียกิจ เหตุการณ์สำคัญ กว่าจะมาเป็นประเทศไทย สัญลักษณ์ ลวดลายที่ปรากฏบนธนบัตร มีความละเอียดอ่อนและปราณีต แสดงถึงความเป็นไทยได้เป็นอย่างดี เป็นสิ่งที่น่าจดจำและควรค่าแก่การอนุรักษ์เป็นอย่างยิ่ง

วันอังคารที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

โทรไม่ขับ

สวัสดีเพื่อนๆ ทุกคน วันนี้มีความรู้เรื่อง " โทรไม่ขับ " มาฝากกันนะคะ 
เมื่อก่อน ปัจจัยสี่ อันได้แก่ อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัยและยารักษาโรค แค่นี้มนุษย์ก็สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้แล้ว แต่ในปัจจุปัน แค่เพียงสี่ปัจจัยคงจะไม่เพียงพอแล้ว ต้องมีปัจจัยที่ห้า นั่นก็คือ โทรศัพท์มือถือหรือสมาร์ทโฟนทั้งหลาย นั่นเอง
ในยุคปัจจุปัน โทรศัพท์มือถือ เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง ขาดไม่ได้เลยก็ว่าได้ เพราะถ้าเราไม่มี เหมือนบางสิ่งบางอย่างมันขาดหายไปจากตัวเรา กระวนกระวาย รู้สึกกังวลอยู่ตลอดเวลา ( ผู้เขียนก็เคยรู้สึกเช่นนั้นเหมือนกัน ) ถ้าเป็นแบบนี้ก็แสดงว่า โทรศัพท์มือถือมีความสำคัญกับเรามากสินะ แต่ทำไมหลายคนกลับไม่ให้ความสำคัญกับการใช้โทรศัพท์มือถืออย่างถูกวิธี ถูกที่ ถูกกาลเทศะบ้าง บางคนคุยโทรศัพท์มือถือขณะขับรถ เล่นเกมบ้าง แชทบนโลกออนไลน์บ้าง ( สองอันหลังนี้เห็นมาด้วยตาของผู้เขียนเอง)โดยไม่คำนึงถึงอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นข้างหน้าเพียงไม่กี่เสี้ยววินาที
ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย เลยนำโปสเตอร์สวยๆ มาฝากเพื่อนๆ

โปสเตอร์นี้เป็นโปสเตอร์รณรงค์ความปลอดภัยในการขับรถ เป็นโฆษณาของหน่วยตำรวจจราจรในอินเดีย คือ Bangalore Traffic Police  ส่วนเอเจนซี่ คือ Mudra Group ใน India
สาเหตุที่ชอบ เพราะเป็นโปสเตอร์ที่แสดงถึงความคิดสร้างสรรค์ของครีเอทีพ เห็นแล้วสะเทือนใจ โดยเฉพาะสีหน้า ท่าทางของแบบและเลือดที่สาดกระเซ็น สีของภาพมีความลึกลับ น่ากลัว เป็นภาพที่สื่อความหมายได้ดี แม้ไม่มีคำบรรยาย ทำให้เราเห็นว่า แค่โทรศัพท์เพียงแค่ไม่กี่วินาที อาจจะส่งผลต่อชีวิตเละอนาคตของเราได้ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่ชอบโทรแล้วขับ
จากผลการวิจัยของนักจิตวิทยาต่างชาติพบว่าการคุยโทรศัพท์ขณะขับรถโดยใช้มือเดียว จะทำให้เกิดความผิดพลาดได้ง่าย และการใช้มือถือขณะขับรถทำให้เกิดอาการ การรับรู้ล้นเกิน” (cognitive overload) ซึ่งเป็นผลให้เกิดอุบัติเหตุที่เท่าหรือสูงกว่าความผิดพลาดจากการขับรถ หรือ เมาแล้วขับการคุยและการถือโทรศัพท์ทำให้สมาธิระหว่างนั้นไขว้เขว
 นอกจากนั้นประโยคการสนทนาก็มีผลต่อสมาธิ หากการสนทนานั้นลึกซึ้งและต้องคิดมากจะรบกวนการขับขี่ โดยเฉพาะการมองเห็นสมาธิจากการโทรศัพท์ถูกแบ่งไปครึ่งหนึ่งทำให้สมาธิในการขับขี่เหลือเพียงครึ่งเดียวเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุอย่างมาก
 ดังนั้น ถ้าเราจะคุยโทรศัพท์ ควรจะจอดรถเข้าข้างทางเเล้วค่อยคุย เสียเวลานิดหน่อยคงจะไม่เป็นไร
                                                                                                                                                                                                                                                                                                           ด้วยด้วยความปรารถนาดีจาก...KINGKING
ขอขอบคุณ โปสเตอร์สวยๆ จาก http://www.marketingoops.com/ads-ideas/print-ads-ads-ideas/dont-talk-drives/

วันพุธที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

เเค่เพียงคุณได้เปิดอ่าน

เพื่อนๆ เคยคิดไหมว่า
ในยุคสมัยที่เปลี่ยนไป เพื่อนจะหาได้ง่ายจากหน้าเว็บสังคมออนไลน์ต่างๆ เช่น Facebook Twitter Line Whatapp แล้วเราจะแน่ใจได้อย่างไร ว่าคนเหล่านั้นเป็น “ เพื่อน ” ที่แท้จริง
ในยุคสมัยที่ทุกคนต่างก็อยากเป็นผู้ชนะที่ยิ่งใหญ่และได้มันมาอย่างรวดเร็ว แล้วเราจะแน่ใจได้อย่างไรว่ามันเป็น “ ชัยชนะ ” ที่แท้จริง
“ เพื่อน ” จะได้มาก็ต่อเมื่อเราให้ความเป็นเพื่อนไปก่อน
“ ชัยชนะ ” จะได้มาก็ต่อเมื่อเราต้องให้คนอื่นชนะไปก่อนและเราก็ต้องแพ้เป็น
 
                                    “ ไม่มีสิ่งใดในโลกที่เราจะได้มาเปล่าๆ
                                           เพื่อนและชัยชนะก็เช่นกัน ”

หลังจากที่ฉันได้อ่านหนังสือ “ เพราะคุณเป็นเพื่อนแท้ คุณจึงเป็นผู้ชนะ ” ของ คุณอำนวยชัย ปฏิพัทธ์เผ่าพงศ์ แล้วทำให้ได้รู้ว่า ถ้าหากวันใดวันหนึ่ง เราต้องอยู่คนเดียวเสมือนว่าถูกคนทั้งโลกทอดทิ้ง ให้เราเรียนรู้แล้วเข้าใจตัวเองอย่างแท้จริง เราจะพบเพื่อนแท้ที่คอยอยู่ใกล้ ไม่เคยห่าง คอยผลักดันสู่ความสำเร็จ คอยปลอบโยนยามเหนื่อยล้าและพ่ายแพ้ ซึ่งเพื่อนแท้ที่ว่านั่นก็คือ “ ตัวของเรา ” นั่นเอง
การมีเพื่อนที่ดีต้องเริ่มจากตัวเราเอง ด้วยการเป็นเพื่อนที่ดีของตัวเอง แล้วเราจะรู้วิธีเป็นเพื่อนที่ดีของคนอื่นและนี่จะทำให้คนทั้งโลกเป็นเพื่อนของเรา
หนังสือเล่มนี้สอนให้ ฉันได้รู้จักและรักกับตัวเองมากขึ้น บางทีการที่ฉันได้ทำในสิ่งที่แตกต่างจากคนอื่น ทำให้สิ่งที่เป็นตัวของตัวเอง ทำให้สิ่งที่ตนเองรักและตั้งอยู่บนพื้นฐานความถูกต้อง ก็ย่อมจะทำให้ฉันมีความสุขได้ การที่เราคิดนอกกรอบ คิดแตกต่างจากคนอื่น ทำให้ฉันได้พบกับสิ่งใหม่ๆ และกล้าที่จะเรียนรู้ไปกับมัน
ใครๆ ก็ล้วนอยากได้เพื่อนที่เเท้จริงเเละต้องการชัยชนะที่เเท้จริงกันทั้งนั้น เพื่อนๆเองก็คิดเเบบนั้นใช่หรือไม่ สองสิ่งนี้กำลังรอเพื่อนๆอยู่ รีบเเสวงหาเเละทำได้ตั้งเเต่เดี๋ยวนี้เลยนะคะ

วันพฤหัสบดีที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2555

CRT vs LCD เลือกใช้อันไหนดี

คิดถึงฉันไหมเวลาที่เธอ ไม่เจอะเจอกันกับฉัน คิดถึงฉันไหมเวลาที่เธอ เหงาใจ.....                                                
วันนี้อารมณ์ดีมาเลย คิดถึงกันบ้างหรือป่าวคะ เพื่อนๆ ห่างหายจากการเขียนบล็อกไปนาน พอดีช่วงนี้ใกล้สอบ ไม่ค่อยมีเวลาเข้ามาทักทายกัน อ่านหนังสือซะเพลินเลย (หนังสือการ์ตูน)นะ ไม่ใช่หนังสือเรียน ฮ่าๆ เข้าเรื่องกันเลยดีกว่านะ
วันนี้อยากจะพาเพื่อนๆมาทำความรู้จักกับสื่อการสอน ประเภทวัสดุอุปกรณ์ นั่นก็คือ จอภาพ (Monitor) หลายคนอาจสงสัยว่า แค่จอภาพเพียงอย่างเดียวจะเป็นสื่อการสอนได้อย่างไร นั่นน่ะสิ เพื่อนๆสงสัยถูกประเด็นแล้วล่ะค่ะ จอภาพเพียงอย่างเดียวไม่สามารถเป็นสื่อการสอนได้ แต่จะต้องประกอบไปด้วย เมาส์ คีย์บอร์ด เคส รวมกันเป็นคอมพิวเตอร์ นั่นเอง แต่ในที่นี้จะขอเสนอเพียงแค่จอภาพเพียงอย่างเดียวนะคะ
พักสายการจากการอ่านแล้วไปชมวิดีทัศน์แนะนำจอภาพกันดีกว่าค่ะ

                
จากวีดิทัศน์แนะนำจอภาพ จะเห็นได้ว่า จอภาพเป็นสิ่งสำคัญต่อผู้เรียน ถ้าเรามีคอมพิวเตอร์แต่ไม่มีจอภาพ ก็คงจะไม่เกิดประโยชน์อย่างแน่นอน ในปัจจุปัน จอภาพแบบ CRT ไม่ค่อยได้รับความนิยมเนื่องจากข้อจำกัดบางประการที่กล่าวไว้แล้วในวิดีทัศน์ ส่วนใหญ่จะเป็นจอภาพแบบ LCD สังเกตได้จากศูนย์คอมพิวเตอร์และห้องสมุดของมหาวิทยาลัยต่างๆ
ถ้าใครสนใจอยากดูและหาข้อมูลของจอภาพแบบ CRT สามารถติดต่อได้ที่ ศูนย์บริการสื่อและเทคโนโลยีการศึกษา ชั้น  8 คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
 

วันอังคารที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2555

WBI กับ ศตวรรษที่ 21


กริ๊งงงงงงงงง เสียงออดบอกเวลาเตรีมเข้าแถวเคารพธงชาติ                                                                                  


หลายคงเบื่อกับการตื่นแต่เช้ามาเรียน  ( หรือบางคนอาจจะมาลอกการบ้านเพื่อน) ต้องมานั่งฟังอาจารย์ฝ่ายปกครองบ่น บ่น บ่น แล้วก็บ่น ต้องมานั่งฟังอาจารย์สอน บางคนก็นั่งหลับ ต้องเรียนทั้งวัน เต็มเวลา เฮ้อออออออ อยากกลับบ้านแล้ววววว เมื่อไหร่โรงเรียนจะเลิก สมัยที่ผู้เขียนอยู่ชั้น ม.ปลาย ก็รู้สึกเช่นนั้นเหมือนกัน  นั่นเป็นการเรียนแบบปกติในโรงเรียน
แต่ในปัจจุปันเป็นยุคศตวรรษที่ 21 ยุคแห่งเทคโนโลยี ยุคแห่งดิจิตอล มีเป้าหมายเพื่อถ่ายทอดความรู้และสร้างสังคมให้ดีขึ้น เราจะเห็นได้จากด้านการศึกษาที่กำลังปรับเปลี่ยนกระบวนการเรียนการสอนอยู่ ผู้เขียนจะขอยกตัวอย่างเทคโนโลยีที่จำเป็นกับการเรียนรู้ในศตวรรษนี้ นั่นก็คือ WBI แล้วมันคืออะไร มีประโยชน์อย่างไร มาดูกันเลยดีกว่า
WBI ย่อมาจาก Web-based instruction หมายถึง การสอนบนเว็บ นั่นเอง เป็นการสอนโดยใช้เว็บเป็นแหล่งรวบรวมเนื้อหาบทเรียนตามหลักสูตร ใช้สำหรับค้นคว้าหาความรู้เพิ่มเติมและใช้ในการสื่อสาร ซึ่งจะแตกต่างจากการเรียนในโรงเรียน
WBI เป็นการเปิดโอกาสทางการศึกษาให้กับผู้เรียน ผู้เรียนสามารถเรียนที่ไหนก็ได้ไม่ต้องเสียเวลาเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทางมายังที่เรียน มีสื่อหลายมิติ ทำให้เลือกเรียนเนื้อหาได้ตามความสะดวก มีการสื่อสารหลากหลายรูปแบบ ทำให้ผู้เรียนมีทักษะในการสื่อสารในสังคมและมีหลักสูตรให้เลือกเรียนอีกมากมาย แต่ในทางกลับกัน
 เมื่อมีข้อดีแล้วก็ต้องมีข้อเสียตามมา นั่นก็คือ ผู้สอนและผู้เรียนไม่ได้เจอหน้ากันเลย ทำให้ขาดปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้สอนและผู้เรียน ผู้สอนต้องใช้เวลาในการเตรียมการสอนมมากกว่าปกติ บางครั้งถ้าผู้เรียนสงสัย ไม่สามารถได้คำตอบทันที ทำให้ผู้เรียนไม่เกิดความเข้าใจอย่างถ่องแท้ นอกจากนี้ผู้เรียนจะต้องควบคุมการเรียนของตนเองให้ได้ จึงจะประสบความสำเร็จในการเรียนได้
WBI เหมาะสำหรับในระบบโรงเรียนและการศึกษาทางไกล ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมใช้กันมากในปัจจุปัน
ในระบบโรงเรียน จะมีการกำหนดวัน เวลาและสถานที่เรียน ผู้สอนกับผู้เรียนได้เจอกันในครั้งแรกของการเรียน เพื่ออธิบายวิธีการเรียนและรายละเอียดของวิชา ผู้เรียนจะต้องมีรหัสเพื่อเข้าเว็บไซต์และอีเมลเพื่อติดต่อระหว่างกันด้วย ถ้ามีคำถามหรือข้อสงสัยก็สามารถส่งอีเมลไปยังผู้สอนได้ สามารถพูดคุยด้วยโปรแกรม Chat หรือ Net meeting  สำหรับการเรียน ผู้เรียนต้องศึกษา ค้นคว้าด้วยตนเองหรือหาข้อมูลจากเว็บไซต์อื่นเพิ่มเติมได้ เราสามารถประเมินผลได้ โดยดูจากบันทึกการเข้าเรียน ส่งงานและสอบของผู้เรียนแต่ละคน จากในเว็บไซต์ได้เลย ตัวอย่างเช่น E-learning
สำหรับในการศึกษาทางไกลจะเป็นลักษณะของโรงเรียนเสมือนและมหาวิทยาลัยเสมือน ผู้เรียนไม่จำเป็นต้องไปเรียน จะเรียนที่ไหน เวลาไหนก็ได้ ผู้เรียนจะต้องทำเองในเว็บไซต์ทั้งหมด เริ่มตั้งแต่ การลงทะเบียนเรียน เพื่อขอรหัสบันทึกเข้าเรียน การเรียนตามเนื้อหาหลักสูตร รวมถึงการค้นคว้าเพิ่มเติมในเว็บไซต์ต่างๆ สามารถส่งงานหรือทำกิจกรรมได้ทางอีเมลโดยการแนบไฟล์ หรือถ้าเป็นชิ้นงานก็ส่งทางไปรษณีย์ การติดต่อระหว่างผู้เรียนกับผู้สอนจะใช้ทางอีเมลและโทรศัพท์บนเว็บ พูดง่ายๆก็คือ ผู้เรียนกับผู้สอนจะไม่ได้พบหน้า ไม่รู้จักหน้าตากันเลยก็ว่าได้ ส่วนการประเมินผลจะใช้แบบเดียวกับระบบในโรงเรียน ตัวอย่างเช่น การเรียนของมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมธิราช
เป็นอย่างไรบ้าง น่าสนใจใช่ไหม WBI ได้อำนวยความสะดวก รวดเร็ว ให้กับผู้เรียนได้เป็นอย่างมาก สามารถเข้าถึงได้ทุกที่ ไม่จำกัดเวลาและสถานที่ ขอเพียงแค่ผู้เรียนมีความสนใจและตั้งใจแค่นั้นพอ เรื่องสถานที่ไม่ใช่สิ่งสำคัญอีกต่อไป เพราะเราอยู่ในยุค “ ศตวรรษที่ 21

บรรณานุกรม
กิดานัน มลิทอง . (2548) เทคโนโลยีเเละสื่อสารการศึกษา. กรุงเทพ :  อรุณการพิมพ์,  หน้า 99-132

วันอังคารที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

คุณรู้หรือไม่

เพื่อนๆรู้หรือไม่ว่า ทำไมนักการศึกษาจำนวนมาก จึงเห็นว่า ควรมีศูนย์บริการสื่อและเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษาในสถานศึกษาระดับอุดมศึกษา ศูนย์บริการสื่อฯจะช่วยจัดพัฒนาการจัดการศึกษาได้ได้จริงหรือไม่ อย่างไร                  
             เราลองมาดูความสำคัญของศูนย์บริการสื่อฯกันดีกว่าค่ะ
  •  เป็นแหล่งค้นคว้า หาความรู้ สำหรับนิสิต นักศึกษา ครูอาจารย์และบุคคลทั่วไป           
  •  เป็นแหล่งที่ผลิตและเผยแพร่สื่อการสอนในรูปแบบต่างๆ เช่น การผลิตรายการวิทยุโทรทัศน์  การผลิตวิดีทัศน์เพื่อการศึกษา การผลิตสื่อการสอนในรายวิชาต่างๆ การผลิตสื่อคอมพิวเตอร์ช่วยสอน                 
  • เป็นแหล่งที่ให้บริการยืมและสนับสนุนสื่อการเรียนการสอนในรูปแบบต่างๆ มีการติดตั้งระบบเครือข่าย มีการเชื่อมโยงระหว่างศูนย์บริการสื่อฯ
  • เป็นแหล่งฝึกอบรมบุคลากรทางการศึกษา จัดอบรมการผลิตสื่อประเภทต่างๆ ให้คำปรึกษาและแนะนำกับครูผู้สอนในรายวิชาต่างๆ
จากความสำคัญข้างต้น เราจะจะเห็นได้ว่า ถ้ามีศูนย์บริการสื่อและเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษาในสถานศึกษาระดับอุดมศึกษาแล้ว จะช่วยอำนวยความสะดวกในการจัดการเรียนมากขึ้น ผู้เรียนเข้าใจเนื้อหาได้เร็วขึ้น ประหยัดเวลา ถ้าผู้เรียนไม่เข้าใจเนื้อหา สามารถขอยืมสื่อไปดูทบททวนได้ ทำให้การเรียนการสอนมีความทันสมัย น่าสนใจและน่าเรียนมากยิ่งขึ้น
ในที่นี้ จะขอยกตัวอย่าง ศูนย์สื่อการศึกษาเพื่อคนพิการ เป็นศูนย์สื่อเฉพาะทาง ที่มีความน่าสนใจมาฝากกันค่ะ

 
 

ศูนย์เทคโนโลยีทางการศึกษา (ศท.) ได้วางแผน ผลิต และประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น วิทยาลัยราชสุดา (มหาวิทยาลัยมหิดล), ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC), สมาคม / มูลนิธิต่างๆ ด้านคนพิการ เป็นต้น  เพื่อผลิตและเผยแพร่สื่อเสริมการเรียนการสอนและสื่อเสริมการเรียนรู้ตามอัธยาศัยสำหรับคนพิการทุกประเภท โดยเน้นสื่ออิเล็กทรอนิกส์รูปแบบต่างๆ ที่เหมาะสมกับกลุ่มคนพิการแต่ละประเภท เช่น หนังสือเสียง รายการวิทยุ รายการโทรทัศน์ รายการวีดิทัศน์ สื่อภาพนูน สื่อคอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษาอื่นๆ                                                                                                         
 ศท. ได้เริ่มผลิตสื่อการศึกษาเพื่อคนพิการเมื่อกลางปี 2542 และเริ่มเผยแพร่สื่อชุดแรกตั้งแต่เดือนมีนาคม 2543  นับถึงปัจจุบันนี้ หน่วยงานได้ดำเนินการผลิตและเผยแพร่สื่อการศึกษาเพื่อคนพิการไปแล้วจำนวนมาก เช่น หนังสือเสียงรูปแบบเทปคาสเซ็ทและรูปแบบซีดี MP3  หนังสือเสียงระบบเดซี    สื่อภาพนูน ประกอบหนังสือเรียนหรือหนังสือเสียง   รายการวีดิทัศน์/โทรทัศน์ ผลิตและเผยแพร่   รายการวิทยุ   หนังสือเบรลล์ ผลิตและเผยแพร่ในรูปแบบ e-braille ทางเว็บไซต์ศูนย์สื่อการศึกษาเพื่อคนพิการ
นอกจากนี้ หน่วยงานยังได้เผยแพร่ข่าวสารข้อมูลด้านสื่อการศึกษาเพื่อคนพิการผ่านเว็บไซต์ศูนย์สื่อการศึกษาเพื่อคนพิการ และจดหมายข่าวสื่อการศึกษาเพื่อคนพิการด้วย ซึ่งภายในเว็บไซต์ ผู้สนใจสามารถเปิดรับชม-รับฟังรายการวีดิทัศน์ รายการวิทยุ และหนังสือเสียงออนไลน์ได้                                                
 ในอนาคต การผลิตและเผยแพร่สื่อการศึกษาเพื่อคนพิการจะดำเนินการต่อไป โดยจะพัฒนารูปแบบสื่อให้เหมาะสมกับสภาพความต้องการของกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หนังสือเสียงระบบเดซี
          
แหล่งที่มา : http://www.braille-cet.in.th/Braille-CET/

              เราจะเห็นได้ว่า การศึกษาสำหรับคนปกติหรือคนพิการนั้น จำเป็นที่จะต้องมีสื่อการศึกษาไว้บริการ เพื่อให้เกิดความสะดวกเเก่ผู้เรียน เพราะการศึกษาในปัจจุปันไม่ได้จำกัดอยู่เเค่ในห้องเรียนเท่านั้น