สวัสดีเพื่อนๆ ทุกคน วันนี้มีความรู้เรื่อง " โทรไม่ขับ " มาฝากกันนะคะ
เมื่อก่อน ปัจจัยสี่ อันได้แก่ อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัยและยารักษาโรค แค่นี้มนุษย์ก็สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้แล้ว แต่ในปัจจุปัน แค่เพียงสี่ปัจจัยคงจะไม่เพียงพอแล้ว ต้องมีปัจจัยที่ห้า นั่นก็คือ โทรศัพท์มือถือหรือสมาร์ทโฟนทั้งหลาย นั่นเอง
ในยุคปัจจุปัน โทรศัพท์มือถือ เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง ขาดไม่ได้เลยก็ว่าได้ เพราะถ้าเราไม่มี เหมือนบางสิ่งบางอย่างมันขาดหายไปจากตัวเรา กระวนกระวาย รู้สึกกังวลอยู่ตลอดเวลา ( ผู้เขียนก็เคยรู้สึกเช่นนั้นเหมือนกัน ) ถ้าเป็นแบบนี้ก็แสดงว่า โทรศัพท์มือถือมีความสำคัญกับเรามากสินะ แต่ทำไมหลายคนกลับไม่ให้ความสำคัญกับการใช้โทรศัพท์มือถืออย่างถูกวิธี ถูกที่ ถูกกาลเทศะบ้าง บางคนคุยโทรศัพท์มือถือขณะขับรถ เล่นเกมบ้าง แชทบนโลกออนไลน์บ้าง ( สองอันหลังนี้เห็นมาด้วยตาของผู้เขียนเอง)โดยไม่คำนึงถึงอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นข้างหน้าเพียงไม่กี่เสี้ยววินาที
ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย เลยนำโปสเตอร์สวยๆ มาฝากเพื่อนๆ
โปสเตอร์นี้เป็นโปสเตอร์รณรงค์ความปลอดภัยในการขับรถ เป็นโฆษณาของหน่วยตำรวจจราจรในอินเดีย คือ Bangalore Traffic Police ส่วนเอเจนซี่ คือ Mudra Group ใน India
สาเหตุที่ชอบ เพราะเป็นโปสเตอร์ที่แสดงถึงความคิดสร้างสรรค์ของครีเอทีพ เห็นแล้วสะเทือนใจ โดยเฉพาะสีหน้า ท่าทางของแบบและเลือดที่สาดกระเซ็น สีของภาพมีความลึกลับ น่ากลัว เป็นภาพที่สื่อความหมายได้ดี แม้ไม่มีคำบรรยาย ทำให้เราเห็นว่า แค่โทรศัพท์เพียงแค่ไม่กี่วินาที อาจจะส่งผลต่อชีวิตเละอนาคตของเราได้ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่ชอบโทรแล้วขับ
จากผลการวิจัยของนักจิตวิทยาต่างชาติพบว่าการคุยโทรศัพท์ขณะขับรถโดยใช้มือเดียว จะทำให้เกิดความผิดพลาดได้ง่าย และการใช้มือถือขณะขับรถทำให้เกิดอาการ “การรับรู้ล้นเกิน” (cognitive overload) ซึ่งเป็นผลให้เกิดอุบัติเหตุที่เท่าหรือสูงกว่าความผิดพลาดจากการขับรถ หรือ “เมาแล้วขับ” การคุยและการถือโทรศัพท์ทำให้สมาธิระหว่างนั้นไขว้เขว
นอกจากนั้นประโยคการสนทนาก็มีผลต่อสมาธิ หากการสนทนานั้นลึกซึ้งและต้องคิดมากจะรบกวนการขับขี่ โดยเฉพาะการมองเห็นสมาธิจากการโทรศัพท์ถูกแบ่งไปครึ่งหนึ่งทำให้สมาธิในการขับขี่เหลือเพียงครึ่งเดียวเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุอย่างมาก