วันอังคารที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2555

WBI กับ ศตวรรษที่ 21


กริ๊งงงงงงงงง เสียงออดบอกเวลาเตรีมเข้าแถวเคารพธงชาติ                                                                                  


หลายคงเบื่อกับการตื่นแต่เช้ามาเรียน  ( หรือบางคนอาจจะมาลอกการบ้านเพื่อน) ต้องมานั่งฟังอาจารย์ฝ่ายปกครองบ่น บ่น บ่น แล้วก็บ่น ต้องมานั่งฟังอาจารย์สอน บางคนก็นั่งหลับ ต้องเรียนทั้งวัน เต็มเวลา เฮ้อออออออ อยากกลับบ้านแล้ววววว เมื่อไหร่โรงเรียนจะเลิก สมัยที่ผู้เขียนอยู่ชั้น ม.ปลาย ก็รู้สึกเช่นนั้นเหมือนกัน  นั่นเป็นการเรียนแบบปกติในโรงเรียน
แต่ในปัจจุปันเป็นยุคศตวรรษที่ 21 ยุคแห่งเทคโนโลยี ยุคแห่งดิจิตอล มีเป้าหมายเพื่อถ่ายทอดความรู้และสร้างสังคมให้ดีขึ้น เราจะเห็นได้จากด้านการศึกษาที่กำลังปรับเปลี่ยนกระบวนการเรียนการสอนอยู่ ผู้เขียนจะขอยกตัวอย่างเทคโนโลยีที่จำเป็นกับการเรียนรู้ในศตวรรษนี้ นั่นก็คือ WBI แล้วมันคืออะไร มีประโยชน์อย่างไร มาดูกันเลยดีกว่า
WBI ย่อมาจาก Web-based instruction หมายถึง การสอนบนเว็บ นั่นเอง เป็นการสอนโดยใช้เว็บเป็นแหล่งรวบรวมเนื้อหาบทเรียนตามหลักสูตร ใช้สำหรับค้นคว้าหาความรู้เพิ่มเติมและใช้ในการสื่อสาร ซึ่งจะแตกต่างจากการเรียนในโรงเรียน
WBI เป็นการเปิดโอกาสทางการศึกษาให้กับผู้เรียน ผู้เรียนสามารถเรียนที่ไหนก็ได้ไม่ต้องเสียเวลาเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทางมายังที่เรียน มีสื่อหลายมิติ ทำให้เลือกเรียนเนื้อหาได้ตามความสะดวก มีการสื่อสารหลากหลายรูปแบบ ทำให้ผู้เรียนมีทักษะในการสื่อสารในสังคมและมีหลักสูตรให้เลือกเรียนอีกมากมาย แต่ในทางกลับกัน
 เมื่อมีข้อดีแล้วก็ต้องมีข้อเสียตามมา นั่นก็คือ ผู้สอนและผู้เรียนไม่ได้เจอหน้ากันเลย ทำให้ขาดปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้สอนและผู้เรียน ผู้สอนต้องใช้เวลาในการเตรียมการสอนมมากกว่าปกติ บางครั้งถ้าผู้เรียนสงสัย ไม่สามารถได้คำตอบทันที ทำให้ผู้เรียนไม่เกิดความเข้าใจอย่างถ่องแท้ นอกจากนี้ผู้เรียนจะต้องควบคุมการเรียนของตนเองให้ได้ จึงจะประสบความสำเร็จในการเรียนได้
WBI เหมาะสำหรับในระบบโรงเรียนและการศึกษาทางไกล ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมใช้กันมากในปัจจุปัน
ในระบบโรงเรียน จะมีการกำหนดวัน เวลาและสถานที่เรียน ผู้สอนกับผู้เรียนได้เจอกันในครั้งแรกของการเรียน เพื่ออธิบายวิธีการเรียนและรายละเอียดของวิชา ผู้เรียนจะต้องมีรหัสเพื่อเข้าเว็บไซต์และอีเมลเพื่อติดต่อระหว่างกันด้วย ถ้ามีคำถามหรือข้อสงสัยก็สามารถส่งอีเมลไปยังผู้สอนได้ สามารถพูดคุยด้วยโปรแกรม Chat หรือ Net meeting  สำหรับการเรียน ผู้เรียนต้องศึกษา ค้นคว้าด้วยตนเองหรือหาข้อมูลจากเว็บไซต์อื่นเพิ่มเติมได้ เราสามารถประเมินผลได้ โดยดูจากบันทึกการเข้าเรียน ส่งงานและสอบของผู้เรียนแต่ละคน จากในเว็บไซต์ได้เลย ตัวอย่างเช่น E-learning
สำหรับในการศึกษาทางไกลจะเป็นลักษณะของโรงเรียนเสมือนและมหาวิทยาลัยเสมือน ผู้เรียนไม่จำเป็นต้องไปเรียน จะเรียนที่ไหน เวลาไหนก็ได้ ผู้เรียนจะต้องทำเองในเว็บไซต์ทั้งหมด เริ่มตั้งแต่ การลงทะเบียนเรียน เพื่อขอรหัสบันทึกเข้าเรียน การเรียนตามเนื้อหาหลักสูตร รวมถึงการค้นคว้าเพิ่มเติมในเว็บไซต์ต่างๆ สามารถส่งงานหรือทำกิจกรรมได้ทางอีเมลโดยการแนบไฟล์ หรือถ้าเป็นชิ้นงานก็ส่งทางไปรษณีย์ การติดต่อระหว่างผู้เรียนกับผู้สอนจะใช้ทางอีเมลและโทรศัพท์บนเว็บ พูดง่ายๆก็คือ ผู้เรียนกับผู้สอนจะไม่ได้พบหน้า ไม่รู้จักหน้าตากันเลยก็ว่าได้ ส่วนการประเมินผลจะใช้แบบเดียวกับระบบในโรงเรียน ตัวอย่างเช่น การเรียนของมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมธิราช
เป็นอย่างไรบ้าง น่าสนใจใช่ไหม WBI ได้อำนวยความสะดวก รวดเร็ว ให้กับผู้เรียนได้เป็นอย่างมาก สามารถเข้าถึงได้ทุกที่ ไม่จำกัดเวลาและสถานที่ ขอเพียงแค่ผู้เรียนมีความสนใจและตั้งใจแค่นั้นพอ เรื่องสถานที่ไม่ใช่สิ่งสำคัญอีกต่อไป เพราะเราอยู่ในยุค “ ศตวรรษที่ 21

บรรณานุกรม
กิดานัน มลิทอง . (2548) เทคโนโลยีเเละสื่อสารการศึกษา. กรุงเทพ :  อรุณการพิมพ์,  หน้า 99-132